สมาชิก
|
รำลึกครบ 55 ปีเทปคาสเซ็ต
Admin (Admin)
|
เมื่อ » 2017-03-30 12:04:27 (IP : , ,14.207.15.75 ,, Admin)
Admin Edit : 2017-03-30 12:15:55
ปัจจุบันเทคโนโลยีและวิทยาการของโลกก้าวหน้าไปมาก ทำให้เกิด
สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆที่ช่วยอำนวยความสะดวก ให้แก่มวลมนุษย์มากมาย
จนทำให้สิ่งประดิษฐ์บางอย่างที่ครั้งหนึ่งเคยฮอตฮิตได้รับความนิยม
จนถึงขีดสุดกลับล้าสมัย จนไม่เป็นที่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
"เทปคาสเซ็ต”
เทปคาสเซ็ต นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งประดิษฐ์ที่ปฏิวัติวงการดนตรีของโลก
เลยทีเดียว ถือเป็นตัวแทนของป๊อปเคา เจอร์ (pop culture) ด้านดนตรี
ที่ใคร ๆ ก็นึกถึง แต่ใครจะเชื่อว่าจนถึงตอนนี้เทปคาสเซ็ตถือกำเนิดบนโลก
ถึง 55 ปีแล้วและวันนี้แม่ไม้เพลงไทยจะขอพาทุกท่านไปรำลึกถึง
เทปคาสเซ็ตกัน
สำหรับเทปคาสเซ็ตถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกในปี 1962 (พ.ศ. 2505)
โดยบริษัทฟิลลิปส์ได้คิดค้นเทปคาสเซ็ตพก พาออกมา เพื่อใช้สำหรับ
ฟังเพลงโดยเฉพาะ โดยเทปคาสเซ็ตได้เปิดตัวออกสู่สายตาชาวยุโรป
เป็นครั้งแรกในวันที่ 30 สิงหาคม ปี 1963 (พ.ศ. 2506)
ที่เบอร์ลิน เรดิโอ โชว์ และที่สหรัฐอเมริกาในปี 1964 (พ.ศ. 2507)
ในชื่อที่เรียกว่า "Compact Cassette" หรือเทปคาสเซ็ต นั่นเอง
ต่อมาเทปคาสเซ็ตก็ได้รับความนิยมเหนือระบบเทปแบบอื่นอย่างรวดเร็ว
อันเป็นเหตุมาจากที่ฟิลลิปถูกกดดันโดย โซนี่ ที่เรียกร้องให้ปล่อยให้
บริษัทอื่นสามารถผลิตเทปคาสเซ็ตได้อย่างเสรี และต่อมาฟิลลิปก็ออก
เครื่องเล่นและอัดCarry-Corder 150 ในยี่ห้อ Norelco ซึ่งทำให้เทปคาส-
เซ็ตยิ่งได้รับความนิยมขึ้นไปอีก จนกระทั่งในปี1968 (พ.ศ. 2511)
เครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตจากกว่า 85 บริษัท สามารถขายออกได้ไปมากถึง
2.4 ล้านเครื่องเลยทีเดียว
ในช่วงแรกของเทปคาสเซ็ต คุณภาพเสียงที่ได้นั้นยังไม่ดีนัก แต่ก็มีการ
พัฒนาปรับปรุงเป็น คาสเซ็ตแบบ 8 แทร็ค ในช่วงต้นทศวรรษ 1970
(พ.ศ. 2513) ทำให้คุณภาพเสียงดีขึ้นมาก ส่งผลให้เทปคาสเซ็ตเริ่ม
กลายเป็นทางเลือก สำหรับคอเพลงคุณภาพสูงแข่งกับแผ่นไวนิลที่เป็น
เจ้าตลาดเดิม
ไม่เพียงเท่านี้ ความนิยมของเทปคาสเซ็ตยิ่งพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิม
ในช่วงปี 1980 (พ.ศ. 2523) หลังจากที่โซนี่เปิดตัว เครื่องเล่นพกพา
"Walkman" แต่ว่ากว่าที่ส่วนแบ่งของเทปคาสเซ็ตจะสามารถแซง
แผ่นไวนิลได้ ก็ล่วงเข้ามาในช่วง ทศวรรษ 1990 แล้ว (พ.ศ. 2533)
อันเป็นช่วงที่เทปคาสเซ็ตมีความนิยมสูงสุด และค่อย ๆ ลดความนิยม
ลงหลังจากที่ ความนิยมของแผ่นซีดีเริ่มเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เทปคาสเซ็ตได้รับความนิยมได้ไม่นานนัก
เทปคาสเซ็ตก็เริ่มถูกซีดีเข้ามาแทนที่ โดยในปี 1993 (พ.ศ. 2536)
มีการส่งมอบเครื่องเล่น CD มากขึ้นมาถึง 5 ล้านเครื่อง (เพิ่มขึ้น
21% จากปี 1992) ในขณะที่เครื่อง เล่นเทปคาสเซ็ตกลับลดการ
ส่งมอบลงไปเหลือเพียง 3.4 ล้านเครื่องเท่านั้น และจนมาถึงปี 2001
(พ.ศ. 2544) ใน บรรดาเพลงที่ขายออกไปได้ มีเทปคาสเซ็ตที่ขาย
ได้คิดเป็นเพียงแค่ 4% เท่านั้น และในปี 2007 (พ.ศ. 2550) ยอดขาย
ของเทปเพลงก็เหลือเพียง 247,000 ตลับ จนในปี 2009 (พ.ศ. 2552)
ยอดขายมีเพียง 34,000 ตลับเท่านั้น เทียบกับใน ปี 1990 (พ.ศ. 2533)
ที่มียอดจำหน่ายสูงถึง 442 ล้านตลับ (สถิติในสหรัฐอเมริกา)
จากสัญญาณนี้ทำให้ค่ายเพลงหลาย ๆ ค่าย ได้ลดกำลังผลิต หรือ
ยกเลิกการผลิตเทปเพลงลงตั้งแต่ช่วงปี 2002-2003 (พ.ศ. 2545-2546)
ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังเหลือเพียงบางประเทศเท่านั้นที่ยังคงขาย
เทปเพลง (เช่น อินเดีย) อันเนื่องมาจากต้นทุนที่ถูก กว่า และในช่วง
หลังการออกผลงานในรูปแบบเทปเพลง เริ่มกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้น
ในหมู่ศิลปินอินดี้ อันเนื่อง มาจากต้นทุนที่ถูกและสามารถป้องกันการละเมิด
ลิขสิทธิ์ได้ดีในระดับหนึ่ง
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก www.kapook.com
|
Please login for write message
|
|