จากคำให้สัมภาษณ์ของคุณ วัฒน์ วรรลยางกูร นักเขียน ผู้เรียบเรียงหนังสือ
“ทูล ทองใจ เทพบุตรเสียงกังสดาล” กล่าวว่า...โดยมากนักร้องที่ขึ้นมาสู่
เวทีอาชีพได้ ก็มักจะผ่านมาจากเวที ประกวดตามงานวัดต่างๆ เช่น
งานภูเขาทองวัดสระเกศ, วัดหัวลำโพง และทูล ทองใจ ก็มาจากเวที
ประกวดที่มหาชัย แล้วจึงได้พบคนในวงการที่เป็นกรรมการตัดสินบ้าง
นักดนตรีบ้าง หรือนักร้องบ้างจึงชักชวนกันเข้ามาในวงการ เข้ามาเสี่ยง
ดิ้นรนด้วยความอดทน กว่าจะมีชื่อเสียงได้
เมื่อเติบโตเป็นหนุ่มรับราชการทหารจนได้รับยศสิบตรี น้อย ทองใจ ถูกชักชวน
จากคุณสิทธิ์ โมระกรานต์ ให้เข้ากรุงเทพฯ และตั้งวงดนตรีเล็กๆ ชื่อวงดนตรี
“SP แมมโบ้” รับเล่นตามงานของเพื่อนๆ เช่น งานแต่งงาน,งานขึ้นบ้านใหม่,
งานสังสรรค์ต่างๆ แต่ก็มีเหตุให้ต้องเลิกวงดนตรีไป หลังจากนั้น น้อย ได้มีโอกาส
ไปสอบร้องเพลงเพื่อเข้าสังกัด วงดนตรี ดุริยะโยธินทหารบก แต่ใครจะรู้ว่านักร้อง
ระดับรางวัลอย่าง น้อย ทองใจ จะสอบเข้าไม่ได้ สาเหตุเนื่องจากการสอบใน
ครั้งนั้นจะต้องร้องเพลงมาร์ชกองทัพบกและเพลงภาษาอังกฤษ
ซึ่งน้อย ทองใจ ไม่ถนัด
จากคำสัมภาษณ์ อาจารย์ นคร ถนอมทรัพย์ กล่าวถึง ทูล ทองใจ ให้ฟังว่า..
พบคุณทูล โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน เมื่อปี 2498 โดยไปสมัครเป็นนักร้อง
ของกองดุริยางค์ทหารบกกับวงดนตรีดุริยะโยธินทหารบก เราไปร่วมสอบ
ด้วยกันบังเอิญ ผมเองสอบได้เข้ารับราชการ ส่วน คุณทูล เค้าไม่ผ่าน
เหตุที่ไม่ผ่านภายหลังเราก็มาลงว่า เหตุผลที่ไม่ผ่านก็เพราะว่าคุณทูล
เป็นนักร้องแนวเพลงหวานแต่ว่ากติกาของการสอบ ผู้ที่สมัครสอบทุกคน
ต้องร้องเพลงสากล 1 เพลง,จะต้องร้องเพลงมาร์ช ให้ได้ 1 เพลง
(โดยเฉพาะมาร์ชกองทัพบก) และร้องเพลงพระราชนิพนธ์อีก 1 เพลง
และเพลงที่เลือกไปสอบอีก 1 เพลง รวมทั้งหมดเป็น4 เพลง
ดังนั้นอาจเป็นเพราะว่า คุณทูล อาจจะไม่ถนัดทั้งเพลงสากล และเพลงมาร์ช
จึงเป็นสาเหตุที่เค้าไม่ผ่าน แล้วต่อมา เราก็มา รู้จักกัน…โปรดติดตามตอนต่อไป